ดอยตุง เปิดตัวกาแฟเกรด Specialty 4 สายพันธุ์ ในงาน Thailand Coffee Fest 2018

มาร่วมกิจกรรมสุดพิเศษของกาแฟ “ดอยตุง” ผลิตภัณฑ์ในความดูแลของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
…เปิดตัวกาแฟเกรด Specialty 4 สายพันธุ์ ในงานกาแฟที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย Thailand Coffee Fest 2018
ที่บูธ L30 และ L31 ณ ห้องแพลนนารี ฮอลล์ 1-3 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 มีนาคม
ภายใต้แนวคิด “Experience the Story of DoiTung Coffee” จากคุณป๊อก-ฉัฐรินทร์ ธรรมชัยโรจน์ Coffee Specialist

สำหรับกาแฟ Specialty 4 สายพันธุ์ที่ทางดอยตุงได้นำมาเปิดตัวในวันนี้ ได้แก่

1.สายพันธุ์ คาติมอร์ (Catimor) จากหมู่บ้านผาฮี้ ต้นทางเป็นพันธุ์จากประเทศโปรตุเกส นำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนา
ต่อยอดจากสถานีวิจัยโครงการหลวงแม่หลอด จังหวัดเชียงใหม่ เพาะปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 900-1,150 เมตร
ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Double Washed หรือการล้าง 2 ครั้ง นับตั้งแต่เก็บเมล็ดเชอร์รี่สุกมาล้าง แยกเมล็ดดี
ปอกเปลือก และหมักในบ่อน้ำ 1 คืน เพื่อเอาเมือกที่หุ้มออก และล้าง อีกครั้ง จากนั้นทำขั้นตอนในข้างต้นซ้ำอีกรอบ
ก่อนนำไปตากแดดและคั่ว จนได้กาแฟรสชาติสะอาดใสแบบ Clean Cup นุ่มละมุนมีความบาลานซ์ Tasting Notes
มีกลิ่นอายจำพวกถั่วเฮเซลนัท

 

2.สายพันธุ์ ทิปิกา (Typica) นำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรตาก (ดอยมูเซอ)
จังหวัดตาก เพาะปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,420 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Semi Washed
หรือกระบวนการล้างเพียงครึ่งหนึ่ง นับตั้งแต่เก็บเมล็ดเชอร์รี่สุกมาล้าง แยกเมล็ดดี ปอกเปลือก และล้างอีกครั้ง
ก่อนนำไปตากแดดและคั่ว จนได้รสชาติกาแฟที่ดื่มแล้วรู้สึกหอม หวานใสๆ Testing Notes เมื่อดื่มแล้วจะรู้สึกได้ถึง
กลิ่นดอกไม้ในกลุ่มจัสมินเบาๆ ตัดกับตอนดื่มจบที่ให้อารมณ์ Black Tea ในลำคอ
3.สายพันธุ์ กาโย (Gayo) นำเมล็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจากประเทศอินโดนีเซีย เพาะปลูกบนพื้นที่สูงจาก
ระดับน้ำทะเล 1,380 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Semi Washed หรือกระบวนการล้างเพียงครึ่งหนึ่ง
นับตั้งแต่เก็บเมล็ดเชอร์รี่สุกมาล้าง แยกเมล็ดดี ปอกเปลือก และล้างอีกครั้ง ก่อนนำไปตากแดดและคั่ว
จนได้รสชาติกาแฟแปลกใหม่ในแบบผลไม้ Testing Notes ให้อารมณ์ฮันนี ไลค์ และเชอร์รี่สุก
ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น

 

และ 4.สายพันธุ์ จาวา (Java) ต้นทางเป็นพันธุ์จากประเทศอินโดนีเซีย นำเม็ดมาวิจัยและพัฒนาต่อยอดจาก
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ (เขาค้อ) จังหวัดเพชรบูรณ์ เพาะปลูกบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล
1,420 เมตร ผ่านกระบวนการแปรรูปแบบ Honey หรือการคงไว้ซึ่งเมือกของผลเชอร์รี่เพื่อเพิ่มความหวาน
ในเมล็ดกาแฟ นับตั้งแต่เก็บเมล็ดเชอร์รี่สุกมาล้าง แยกเมล็ดดี ปอกเปลือก แล้วนำไปตากแดดและคั่ว
กาแฟที่ได้จะมีรสชาติแบบผลไม้สุกฉ่ำ หวานละมุนครีมมี่ในปาก มีกลิ่นอายถั่วคั่วและคาราเมล
กล่าวได้ว่ากาแฟ Specialty พันธุ์จาวา เป็นกาแฟที่มีรสชาติซับซ้อนชวนค้นหา

ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่ปลูกในโครงการพัฒนาดอยตุง บนพื้นที่ทรงงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9
โดยกาแฟทั้ง 4 ชนิดนี้ ได้ผ่านการวิจัยและพัฒนามาเป็นเวลาถึง 3 ปี ควบคุมคุณภาพอย่างดีในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูก
ดูแล เก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันโดยการเด็ดทีละเมล็ดเพื่อป้องกันการช้ำของเมล็ดกาแฟ จากนั้นจึงนำไปแปรรูป
ด้วยกระบวนการที่เหมาะสม ทำให้ความโดดเด่นของกาแฟแต่ละสายพันธุ์มีรสชาติยอดเยี่ยม
ซึ่งในงานนี้พีทก็ได้ลองลิ้มชิมรสกาแฟดริปทั้ง 4 สายพันธุ์จากบาริสต้ามือหนึ่งของคาเฟ่ดอยตุง บอกเลยว่า
มีความหอมเข้ม เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันไป คอกาแฟต้องมาลอง

และนอกจากรสชาติที่ดีของกาแฟที่ได้ลองในวันนี้แล้ว ผมยังมีความรู้สึกภูมิใจที่ได้อุดหนุนผลิตภัณฑ์ของดอยตุง
เพราะนอกจากจะมีคุณภาพดีแล้ว สินค้าเหล่านี้ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ทำให้คนในชุมชน
พึ่งพาตัวเองได้ด้วยครับ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการได้ลิ้มลองกาแฟเกรด Specialty
ทั้ง 4 สายพันธุ์นี้ ก็ไปลองกันได้เลยในงาน Thailand Coffee Fest 2018 ที่บูธ L30 และ L31
ณ ห้องแพลนนารี ฮอลล์ 1-3 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ตั้งแต่วันนี้ถึง 11 มีนาคม เท่านั้นคร้าบบ